Focal Length Range : 24 – 70mm / Approx. Weight24.8 oz. (805 g) /
Approx. Dimensions (Diameter x Length)(89mm) (126mm)
เลนส์ 24-70 S ออกแบบมาเพื่อใช้ในงาน ที่ต้องการความคล่องตัว และ ประสิทธิภาพที่ หวังผลได้ เน้นไปที่ การต้องการความผิดพลาดที่น้อยที่สุด และสะดวกสบายที่สุด แต่ก็ต้องทำใจไว้ก่อนว่าเลนส์ที่มีประสิทธิภาพสูง ครบเครื่อง และใช้งานง่าย มักแลกมาด้วย ราคา และ น้ำหนัก ที่มากเป็นพิเศษ
นิคอนปล่อยเลนส์ตัวนี้ หลังจาก กล้อง Z7 /Z6 ออกมาได้เพียง 6 เดือน นับเป็นสัญญาณที่ดี ว่านิคอนจะสามารถ เติมเต็มไลน์ผลิต ในเลนส์ S Line ได้อย่างครบถ้วน ในเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า รีวิวนี้จะเน้นไปที่การพูดถึง ข้อดี ข้อเสีย และจุดเด่นของเลนส์ตัวนี้
ก่อนจะอ่านรีวิว อยากให้แยกแยะให้ออกว่า หลายคนไม่มีความจำเป็นต้องใช้ 2.8 ให้ทบทวนดีๆ ว่าจะใช้เงินเกินครึ่งแสน ซื้อเลนส์ที่ตนเอง จะใช้รูรับแสงมากกว่า 2.8 ไปบ่อยๆนั้น บอกเลยว่าไม่เข้าท่า และยังมีเลนส์อย่าง 24-70 F4.0 S ที่เบาและคม เป็นตัวเลือกอยู่เช่นกัน (ถ้าหากคิดจะเปรียบเทียบอ่ะนะ) https://rbjphoto.com/2019/03/06/walk-around-with-af-24-70-s/
มาดูกันเลยดีกว่า ว่าเจ้าเลนส์ตัวนี้มีอะไร ที่ต้องสังเกต หรือ ศึกษาข้อมูลของตัวมันบ้างนะครับ
- น้ำหนัก 805 กรัม 8 ขีดนั่นเอง จับกับบอดี้ อย่าง Z6/Z7 ไปก็จะป้วนเปี้ยนอยู่ราวๆ 1.5 กิโลกรัม ถือว่าถ้าเทียบกับ ตัวเก่าที่จับบน DSLR อย่าง D850 แล้วถือว่า เบาไป 5 ขีด ก็น่าจะทำให้การถือทำงานระยะยาวนั้นได้เปรียบอยู่มากโข


2. ระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 24 มม นั้น ตามสเปค ระบุไว้ที่ 38 ซม แต่เอาจริงๆแล้วสามารถทำได้ที่ 34 ซม ที่ช่วง 24 มม และ ที่ 70 มม นั้น ระยะโฟกัสใกล้สุดจะอยู่ที่ 38 ซม ตามสเปคที่ระบุ











3. การออกแบบใหม่ (ความเห็นส่วนตัว) ผมคิดว่า Nikkor ค้นหาทางออกใหม่ ให้กับเลนส์ S-Series ได้อย่างชาญฉลาด เห็นจากการออกแบบเลนส์ก่อนหน้านี้แล้ว คือ การใช้ชิ้นเลนส์ที่ Coating แบบ ARNEO ในชิ้นเลนส์ชุดหน้า เพื่อรับภาพให้ดีที่สุดก่อน
และทำเผื่อในการสร้างมุมรับภาพ ที่กว้างกว่า ที่ระบุไว้ แต่ใช้ Software เข้ามาจัดการ ในการรับภาพจาก ทางยาวโฟกัส ที่ระบุไว้ ผมออกความเห็นส่วนตัว*** แบบเดาๆไว้ว่า มันคือ มุมรับภาพ ที่กว้างกว่านิดหน่อย แล้วโปรแกรมจัดการเอามาเฉพาะตรงที่ต้องการ เช่น 24-70 มุมรับภาพของเลนส์ ที่ดิบๆด้วยชิ้นเลนส์ อาจจะเป็น 22 มม แต่ software ปรับมาใช้ที่ 24 มม นั่นหมายถึงว่า Nikkor ไม่ได้เน้นไปที่ชิ้นเลนส์ที่ต้องเป็น Aspherical มากมายในชิ้นแรกๆเหมือนตอนออกแบบเลนส์ให้ DSLR แต่เน้นรับภาพมาก่อน แล้ว ส่งผ่านส่วนที่ดีที่สุด ในพื้นที่ภาพส่วนกลาง ไปที่เซ็นเซอร์ (เราเลยเห็นภาพที่ คมแสนคม ที่ขอบภาพ และกลางภาพ และ fall off ที่หายไปแทบทั้งหมด )











จริงๆแล้ว ต้องบอกว่า เลนส์มันดีมากอยู่แล้วล่ะครับ ข้อเสียที่มี เอาจริงๆถ้าไม่ได้ เค้น ให้มันเกิด มันก็เกิดยากมาก

ผมสรุปให้ฟังง่ายๆเป็นข้อๆแล้วกันนะครับ
1.เลนส์คมมากครับ คมแบบ คมกว่านี้ หรือต้องการคมกว่านี้ คงยากแล้ว ถ้าเป็นสาย เน้นความคม บอกเลยว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน แต่ถ้ายังบ่นว่าคมไป ก็ปรับลดในกล้องหรือโปรแกรมเอาได้ ดังนั้น คมไว้ก่อนดีที่สุดครับ แล้วค่อยไปลดเอาทีหลัง
2. เลนส์หนัก 805 กรัม และไม่ต้องมี adapter ต่อ ความยาวลดลง สะดวกมากขึ้น ทั้งสมดุลการจับถือ และการถ่ายเทน้ำหนัก
3. เลนส์ไม่จำเป็นต้องปลดล็อค เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน วัสดุแข็งแรง ถึงแม้ตัวเลนส์จะมีการยื่นออกเมื่อมีการซูม แต่การทำช่องว่างระหว่างกระบอกซูมนั้น ทำได้ดีขึ้นมากและรู้สึกได้ถึงความแน่นของเลนส์ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการซูมเข้าออก ด้วยความรวดเร็ว ในที่ ที่มีฝุ่นและละอองน้ำเยอะ
4. หน้าจอแสดงผลข้อมูลเลนส์ มีประโยชน์ในการใช้งานในที่มืด และสำหรับสายแลนด์สเคปที่ต้องการความประณีตในการทำแบบ มัลติโฟกัส และการทำ stack focus มากๆเพราะแสดงผลง่ายแม้จะถ่ายในตอนกลางคืน
5. ระบบโฟกัสแบบ Multi-Focus บนเลนส์นั้น ขับชุดเลนส์ 2 ชุด ให้เคลื่อนไหวทั้ง 2 กลุ่ม ในเวลาเดียวกัน จึงทำให้เร็วมากๆ และไม่หมุนไร้สาระอีกต่อไป และหลักๆคือ ตอบสนองในการถ่าย VDO ได้อย่างดีมากๆ
สรุปโดยรวม
เลนส์ 24-70 F2.8 มีกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างชัดเจนมากอยู่แล้วครับ แทบไม่ต้องเขียนเชียร์ ก็ขายได้ และขายดีมาตลอด ส่วนคนที่คิดว่า จะไป 2.8 ดีไหม หรือ อยู่ที่ 4.0 ดี อันนี้ สำรวจตัวเองได้เลยครับ ราคาต่างกัน 55,000 บาท / ใช้ตอนแสงน้อยบ่อยไหม / ต้องการความคมมากไหม / ต้องการความเร็วมากไหม / เงินในกระเป๋าพอไหม / พร้อมแบกหนักไหม /
ถ้าตอบได้ครบทุกข้อ อยากไป 2.8 ไปได้เลยครับ แต่ถ้า ไม่ได้ใช้บ่อย นานๆแสงน้อยที อยากได้เบาๆติดกระเป๋า ถ่ายทีไรเปิด เอฟ 8-16 บ่อยๆอยู่แล้ว มีเงินเหลือ ไปสอยเลนส์ท่องเที่ยวแบบ 14-30 ได้สบายๆ / ไม่อยากแบกหนัก ไม่ได้รับงานถ่ายอะไรอยู่แล้ว ปล่อยผ่านได้เลยครับ เว้นแต่เงินเหลือสุดๆ บอกเลยว่าตัวนี้ คม ท้าชนได้ทุกสถาบัน
สำหรับคนที่คิดว่า คุ้มไหม เอาตัวเก่าที่ไม่ใช่ Z mount ออกไป ตอบตรงนี้ว่า เอาที่สบายใจ ถ้าเป็น 24-70 G ED ผมว่าเปลี่ยนยังไงก็คุ้ม เพราะตัว S ชนะขาดลอย แต่ส่วน 2.8 E VR นั้น สูสีกันมากๆ ในเรื่องประสิทธิภาพ แต่ถ้ามองถึงน้ำหนัก ความยาว ความสะดวก และ มอเตอร์ใหม่สำหรับถ่าย VDO แล้วล่ะก็ ยังไงก็ให้คะแนน S- Line ครับ
ราคาเคาะแล้ว อยู่ที่ 79,900 บาทครับ ถือว่า ดีและถูก บนเลนส์ระดับนี้ ราคานี้เก็บใช้ยาวๆขั้นต่ำ 6-8 ปีได้สบายๆ
เลนส์ไม่มีกันสั่นไว้ใจได้เรื่องขดลวดที่จะเสีย ไม่มีแน่นอน / และแบ่งกลุ่มโฟกัส 2 ชุด ทำให้โฟกัสเร็ว กินแบตน้อย เอาจริงๆเสี่ยงพังน้อยมาก ด้วยโครงสร้างที่เป็นตอนนี้
9/10 ตัดเรื่อง ออกแบบฮูดมาไม่สวย น่าจะคลุมช่วงที่ซูมยืดสักหน่อย ไม่เข้าใจหัวอกคนซื้อไปโชว์ ใส่ใจคนซื้อไปใช้อย่างเดียว 555
สวัสดีครับ
0 comments on “NIKKOR Z AF 24-70 F2.8 S”