รีวิวเลนส์ 14-30 ของ NIKKOR S LINE ข้อมูลทางเทคนิค อ่านได้จากที่นี่ครับ

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เลนส์ระดับ ULTRA WIDE นั้น มีเอาไว้เพื่อใช้งานแบบไหน และใช้เพื่ออะไร ซึ่งแพร่หลายในทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว นักถ่ายภาพ Landscape / Interior / Architechture ซึ่งมุมกว้าง 14 มม นั้น กว้างและให้มุมที่แปลกตา
แต่เป็นที่ทราบกันว่า นิคอนไม่ได้ทำ 14 มม ออกมาในราคาที่ จับต้องได้นัก ในยุค SLR และมีแต่ 14 มม 2.8 / 14-24 2.8 ที่มีมุมในระดับ 14 มม ให้ใช้ ซึ่งต้องแลกมาด้วย ราคา และ น้ำหนัก ที่บางครั้งไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคนมากนัก ซึ่งเลนส์อีกคลาสนึง ที่ออกมาให้ใช้งานได้ และ ราคาเบาลงมาก็มี 16-35 / 18-35 ซึ่งเปิดมาในราคา 4หมื่นปลาย และ 2หมื่นกลางๆ
ซึ่งก็ไม่ได้มีมุมที่ 14 มม มาให้ใช้ นิคอนเองเสียลูกค้าไปมากมาย ให้กับผู้ผลิตเลนส์อิสระ เช่น ซิกม่า แทมรอน หรือกระทั่งคาร์ลไซส์ และค่ายจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเหล่าหวา จากการ หวงแหน เทคโนโลยีของชิ้นเลนส์ มุมกว้าง ที่โดดเด่นเรื่อง การให้ความคมและ การบิดเบี้ยวที่น้อยมากๆ … แต่ยิ่งนานไปเข้า ใครๆก็เริ่มทำได้ และเมื่อมาถึงจุดเปลี่ยนเป็นกล้องไร้กระจก และเล็งเห็นว่า ขืนดื้อแพ่งต่อไป จะพาลขายกล้องไม่ออกไปด้วย เลยเข็น อนาคต มาให้ชมกันในปีนี้ นับว่าเป็น ไม้เด็ด ที่แม้ตากล้องที่ทดสอบหลายๆคนนั้น คิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำ
ข้อโดดเด่นที่สังเกตได้
- น้ำหนักเบา 485 กรัม รวมกับกล้องแล้ว กิโล นิดๆ นับว่าเป็น ตัวจบ ของสายแลนด์ได้สบายๆ เบากว่า 14-24 2.8 ไป 51% นั่น คือ เกินครึ่ง บนมุมที่ได้ คือ 14 มม
- ชิ้นเลนส์ที่ให้มาเป็นชิ้นเลนส์ สุดพิเศษ ในกลุ่มหน้า 3 ชิ้นแรก มี 2 Aspherical ติดกัน เพื่อ เอามุม ที่ต้องการ และจัดตามมาด้วย ED ซึ่งถ้าถามว่า น่าตื่นเต้นไหม บอกเลยว่า ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น จัดแบบนี้ ใน 14-24 ก็มี แค่ เบากว่าครึ่งนึง ถูกกว่าไปหลายหมื่น และไม่ต้องมี แฟลร์สายรุ้ง ให้หงุดหงิดอีก นับว่า ให้มาขนาดนี้ ในราคาขนาดนี้ ก็เอาใจไปได้เลยเหมือนกัน
- ชิ้นหน้าสุด คือทุกอย่าง เป็นโค้ทติ้งแบบใหม่ ไม่กลัวว่าจะวางกรุ๊ปชิดเกินไปแล้วจะสะท้อนกันเอง เพราะเอาการเคลือบแบบ Anti reflective ชิ้นหน้าเลยจัดได้ใกล้ ลดความยาวไป 1/3 จากเลนส์อย่าง 14-24 ได้สบายๆ
- ใส่ฟิลเตอร์ได้ บนช่วง 14 มม สักที / และ stepping motor นั่นก็ทำงานได้ดีมากจนต้องบอกว่า คนที่รอ 14 มม มีกันสั่น ถึงกับน้ำตาไหลออกมา จะเดินตาม แพนตาม ถ่ายวิดีโอมีความสุข และโฟกัสนิ่ม ไม่กระชากตามสไตล์ S Line
- โฟกัสใกล้สุด 28 ซม … นั่นคือ ที่ 14 มม และ 30 มม ก็เท่ากัน และ คือ วัตถุห่างจากหน้าเลนส์ราวๆ 15 ซมนั่นเอง ใช้สนุกและเมื่ออยู่ใต้น้ำก็สนุกมากกว่าที่คิดไว้มาก
ผมจะขอแยกความสำคัญและเขียนในรูปแบบของการวิเคราะห์ จาก Concept ในการออกแบบ ซึ่งการออกแบบเลนส์นั้น จะมีการวางโครงสร้างของ
ผลิตภัณฑ์ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างดังนี้
1. คุณภาพเลนส์ ที่ต้องมีสูงสุด แน่นอนว่าผู้ผลิตก็ต้องการให้เลนส์ออกมาดี ไม่อยากมีใครโดนด่าหรอกครับ
2. รูปแบบการใช้งานของเลนส์ คุณสมบัติที่สามารถตอบโจทย์เมื่อประกอบกับเลนส์ตัวอื่นๆในระบบของทั้งตัวเองและคู่แข่ง
3. กลุ่มผู้ใช้เลนส์รูปแบบนี้ จากการเก็บสถิติแบบมีระบบ และ จากยอดขายรวมไปถึงผลตอบรับในตลาดแบบมีระเบียบแบบแผน
4. ราคาของเลนส์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในข้อที่ 3
– เลนส์ดีๆ ทำไม่ยาก ใส่ของดีๆเข้าไปทั้งหมด คุณสมบัติสุดยอด … ราคาจะแพงมาก ลูกค้า หายหมด มีแค่บางกลุ่ม ซึ่งในเชิงธุรกิจ ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิด
– ดังนั้นจะต้องมีการ ชั่งน้ำหนัก เพื่อให้ตัวเลขดำเนินไปได้ ทั้งเชิงวิศวกรรม และ ยอดขาย เลนส์จึงมีกำหนด เรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นวัสดุ ระบบที่ใช้ น้ำหนักเลนส์
ตัดออกจาก เลนส์ในอุดมคติ ให้น้อยที่สุด เท่าที่จะทำออกมาขายได้ ถ้ามี 14-30 F1.4 ขาย หนัก 3.6 กิโล ตัวละ 245,000 ต้องถามว่า คนซื้อมีกี่คน เพราะต้องเริ่มออกแบบ เดินสายการผลิต ทำต้นแบบ ล้วนแต่ใช้แรงงาน แรงเงิน ทั้งสิ้น บริษัทเป็นธุรกิจ ไม่ได้เป็นโรงเจ ดังนั้นการทำเลนส์ดี มาขายราคาถูก จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่งั้นเราจะเห็นบริษัทที่อายุสั้นมากๆบริษัทนึง
เลนส์ดีๆใครก็อยากใช้ครับ ถ้าจ่ายไหว ผมจะเขียนไว้ตรงนี้ว่า เลนส์ NIKKOR 14-30 F/4 S ตัวนี้ เป็นเลนส์ที่ เลือกใช้วัสดุที่ดีมาก งานวิศวกรรมดีมาก แล้วค่อยๆตัดออกในส่วนที่กระทบการออกแบบ ให้น้อยที่สุด จนได้ราคาที่เป็นไปได้ และ เข้าถึงเป้าหมายในการขาย ที่พอไหว ไม่ได้จะหั่นทุกอย่างออกจนเหลือตัวละ 1,500 บาท ให้มีใช้กันถ้วนหน้า
แฟลร์ที่มี น้อยมากมาย ถ้าเปิดกว้างหน่อย เล็กกว่าฝุ่น อันนี้ ชอบมาก แต่ถ้าชอบแฟลร์ต้องไปใส่เอาทีหลังเอาเองนะครับ มีก็บ่น ไม่มีก็บ่น 555
แต่ถ้าเปิด 10.0 ขึ้นไป ก็มีผลชัดเจน แต่ถือว่าทำได้ดี แต่จะมีแกลร์สี RGB มาครบ ตรงใกล้แหล่งกำเนิดแสง ตรงนี้ 24-70 2.8 ก็เป็น / และเชื่อว่า 14-24 2.8 ก็จะเป็น มาจากการวางชิ้นเลนส์และการสะท้อนที่เกิดจากระยะการวาง (อันนี้เรียนว่า ไม่แน่ใจ ) แต่ถ้าวางตรงกลาง ก็ไม่เห็นนะครับ ต้องเข้ามุม

พวกแหล่งกำเนิดเล็กๆ แล้วเปิด 4.0 นี่ ชอบมากครับ ไม่ต้องถาม ไม่มีมากวนใจครับ
เปรียบเทียบ ภาพในส่วนต่างๆ เมื่อใช้ที่ F10 / F4.0 ที่ใช้ 10 เพราะ เป็นช่วงที่ข้อมูลชี้ว่าเป็นช่วงที่ ดีที่สุด ของตัวนี้
เอาจริงๆ ก็เห็นความต่าง แต่น้อยจนใช้คำว่า รับได้ แถวกลางภาพไม่ต้องถาม ใช้งานได้เลย ส่วนมุม ขอบนั้น รับได้ ความคมอาจจะหายไปบ้าง แต่นำส่งคอนทราสต์ได้ดีตลอดทั้งภาพเหมือนที่ MTF บอกไว้ไม่มีผิด


https://imaging.nikon.com/lineup/lens/z-mount/z_14-30mmf4s/spec.htm
และสำหรับคนที่คลั่งมุมกว้างงงง 14 มม มันไม่พอ จะลองต่อแนวตั้งแบบขี้เกียจ 2 ใบก็เฟี้ยวได้ ก็ลองดูได้นะครับ แต่ก็มี effect จากการต่อพอสมควร แต่ถ้าถามแล้วล่ะก็ ชิล ใช้งานได้สบายๆ
รวมแล้วก็ได้ประมาณนี้ครับ
อันนี้ต่อแบบ 180 องศา สะใจไปเลย ใช้แนวตั้งทั้งหมด 6 ภาพครับ
ที่ 30 มม ถ่ายคนก็ได้มุมที่พอกล้อมแกล้มไปได้ ชิคๆ เอาวางไว้กลางภาพ ก็ถือว่ารอดอยู่
ช่วงเปรียบเทียบ ที่ 14 มม กับ 30 มม
14 มม ที่ F4.0
30 mm F4.0
เรื่อง Distortion บอกเลยว่า ถ้าวันไหนมันเบี้ยว ให้เช็คระดับน้ำของคุณเท่านั้นครับ เพราะเลนส์มันไม่มี distortion โดยสิ้นเชิง การ tilt up / tilt down แล้วบอกว่า เลนส์มันมี Distortion เป็นการกล่าวหาที่เป็นคดีความร้ายแรง กรุณาศึกษาก่อนจะเขียนอะไร
งานใต้น้ำ ซูมที่ 30 มม ถ่ายปลาเต็มตัว ถ่ายง่าย และโฟกัสไวหายห่วง
14 มม
30 มม
สรุปง่ายๆสบายๆ เอาจริงๆคือ ขี้เกียจเขียนเหมือนกัน เพราะเลนส์มันออกมาขนาดนี้ ใครไม่พอใจ ก็ปล่อยผ่านไป เพราะด้วยราคาขนาดนี้ แล้วจัดเต็มมาขนาดนี้ มันเหนื่อยที่ต้องอธิบาย และใครคิดว่า 2.8 เท่านั้น ก็รออ่านตอน 2.8 ออกมาอีกทีนะครับ ไม่ขอเปรียบเทียบใดๆ เพราะออกมา คนละยุคสมัย
มีคนหลายคนจะบอกว่า เอา 2.8 มาใช้ดีกว่า บลาๆๆ ยกมองแล้วสว่างกว่า นี่มัน mirrorless แล้วคุณเอ้ยยย มันสว่างหมดแหละ ถ่ายแลนด์ 2.8 ดีกว่า แต่ก็เห็นเปิดกัน f8.0 – 22.0 กันเอาน้ำฟุ้งๆเป็นแถว อย่าเยอะ …. ไม่ชอบ ปล่อยผ่าน
ราคาเลนส์ 42,900 บาท ถูกกว่านี้ ก็ต้องไปทำเองหลังบ้านแล้ว สำหรับผมถือว่า ราคาดีมาก และน่าจะเป็นเลนส์คู่ใจใครหลายๆคนในอนาคตแน่นอนครับ
ส่วนงาน event ต้องการ สปีด 1 สตอป อันนี้เอาที่สบายใจ ไม่ขอเถียง ทุกคนมีฟิลด์งานที่ถนัดอยู่ แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าสายแลนด์นี่ ยิ้มหวานเลย น้ำหนักไม่ถึงครึ่งโล ใส่ฟิลเตอร์ได้ กันสั่นในบอดี้ มีมาครบๆ ถ่ายนิ่มๆ lapse เนียนๆ
เลนส์มันมีลูกค้าของมันอยู่ครับ … ผมขอตอบแค่นี้แล้วกัน ใครที่เป้าหมายชัดเจนว่าต้องการอะไร จากเลนส์ช่วงนี้ น้ำหนักเท่านี้ รูรับแสงเท่านี้ บอกได้เลยว่า เลนส์ สมบูรณ์แบบมากๆครับ ผมให้ 10/10 เลย
สวัสดีครับ
0 comments on “NIKKOR 14-30 S F4.0”